บทความ

รูปภาพ
“ หอกโล่ปะทะกันเอง ”                 ในสมัยแคว้นฉู่ มีพ่อค้าขายหอกและโล่คนหนึ่ง ได้ป่าวร้องโฆษณาโล่ของเขาว่า “ โล่ของข้าแข็งแกร่งที่สุด ” มีผู้คนที่เดินผ่านไปมาถามเขาว่า “ แข็งแกร่งมากแค่ไหน ” เขาตอบไปว่า “ มันแข็งแกร่งมาก อาวุธชนิดไหนก็ไม่สามารถแทงทะลุมันได้ ”                 พอโฆษณาโล่เสร็จ เขาก็ป่าวร้องโฆษณาหอกอีกว่า “ หอกของข้าคมกริบที่สุด ” ผู้คนที่เดินผ่านไปมาก็ถามเขาอีกว่า “ คมกริบมากแค่ไหน ” เขาตอบไปว่า “ มันคมกริบมาก ไม่ว่าโล่จะแข็งแกร่งแค่ไหนก็สามารถแทงทะลุได้ ”                 พอผู้คนที่เดินผ่านไปมาได้ยินที่เขาป่าวร้องโฆษณาเช่นนั้น ก็ถามเขาไปว่า “ ถ้าใช้หอกของท่านแทงโล่ของท่าน ผลจะเป็นยังไงนะ ”   พ่อค้าหอกและโล่ได้ฟังก็อ้ำๆอึ้งๆ พูดไม่ออก   บอกไม่ถูกด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ เพราะไม่สามารถตอบได้     สรุป นิท...
รูปภาพ
  “ ตาบอดคลำช้าง ”                 สมัยก่อน   มีคนตาบอดอยู่ ๔   คนอยากรู้ว่าช้างมีลักษณะเป็นอย่างไร   พอเขาเห็นควานช้าง ก็เลยขอร้องควานช้างว่าขอลูบคลำช้างหน่อยได้ไหม                 ควานช้างตอบตกลง   จากนั้นคนตาบอดก็เริ่มคลำช้าง   คนตาบอดอ้วนๆคลำงาช้าง แล้วบอกว่า “ ช้างมีลักษณะเหมือนหัวผักกาด ”                 คนตาบอดสูงๆคลำใบหูของช้าง   แล้วบอกว่า “ พวกท่านพูดไม่ถูก ช้างมีลักษณะเหมือนใบพัดใบใหญ่ ”                   คนตาบอดคนที่สามคลำขาของช้าง   แล้วตะโกนบอกว่า “ พวกท่านพูดผิดหมดเลย ช้างมีลักษณะเหมือนเสาขนาดใหญ่ต่างหากเล่า ”             ...
รูปภาพ
“ ลักไก่ ”             ใน สมัยก่อน   กษัตริย์ของรัฐฉี่ชอบฟังคนเป่าขลุ่ยเป็นอย่างมาก   กษัตริย์องค์นี้มีนักดนตรีประมาณ 300 คน   เนื่องจากเขาเป็นคนชอบความสนุกสนาน   ครึกครื้น   เวลาเป่าขลุ่ยก็จะมีคนเป่า 300   คนตลอดเลย                 มีชายคนหนึ่งชื่อว่าหนานกัวได้ยินข่าวว่าเป็นงานอดิเรกของกษัตริย์องค์นี้   ก็เลยหาทางหาเงินโดยการเป่าขลุ่ย   เขาก็เลยวิ่งไปบอกกับกษัตริย์ว่า   “ กษัตริย์พระเจ้าค่ะ   ข้าเป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียง   การเป่าขลุ่ยก็เป่าได้ดีมาก ”                   กษัตริย์ได้ยินเช่นนั้นก็ดีใจมาก   รีบส่งเขาไปร่วมวงเป่าขลุ่ยกับนักดนตรี 300 คนนั้น   แท้ที่จริงแล้วผู้ชายคนนี้ไม่ได้เป่าขลุ่ยเป็นเลยแม้แต่นิดเดียว   เขาแอบปะปนกับนักดนตรี 300 คนเท่านั้น   ทุกครั้งก็ทำทีว่าเป่าขลุ่ยเป็น ...
รูปภาพ
  “ วัวหายล้อมคอก ”      นานมาแล้ว   มีคนเลี้ยงสัตว์คนหนึ่ง   เขาได้เลี้ยงแพะไว้ประมาณสิบกว่าตัว   ช่วงเช้าเขาจะออกไปปล่อยแพะ    พอตกเย็นก็จะไปไล่แพะมาเข้าคอก มีอยู่เช้าวันหนึ่ง   เขาก็ได้ไปปล่อยแพะเหมือนเช่นเคย   แต่พบว่าแพะได้หายไปหนึ่งตัว      แท้ที่จริงแล้วคอกแพะของเขามีรูโหว่   ทำให้ตอนดึกๆมีสุนัขจิ้งจอกเข้ามาคาบแพะไป เพื่อนบ้านของเขาได้เตือนเขาว่า ให้รีบซ่อมแซมคอกแพะและอุดรูโหว่นั้นโดยเร็ว      เขากลับตอบไปว่า “ ไหนๆแพะก็หายไปแล้ว   จะซ่อมคอกแพะให้มันเสียเวลาไปทำไม ” ผลปรากฏว่าเช้าวันต่อมา   ตอนที่เขานำแพะไปปล่อยนั้น   พบว่าแพะได้หายไปอีก      แท้ที่จริงแล้วสุนัขจิ้งจอกได้มุดเข้าไปในคอกและคาบแพะไปอีกนั่นเอง เขารู้สึกเสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น   และรีบทำตามคำเตือนของเพื่อนบ้าน โดยทำการซ่อมแซมคอกแพะและอุดรูโหว่นั้นเสีย สรุป นิทานสุภาษิตจีนเรื่อง “ วัวหายล้อมคอก ” สอนให้รู้ว่า  ...
รูปภาพ
“ ดึงต้นกล้าเพื่อช่วยให้โต ”                 ในสมัยชุนชิว มีชาวนาคนหนึ่งมักจะคิดเสมอว่าทำไมต้นกล้าถึงได้โตช้ามาก   ทุกๆวันเขาจะไปดูต้นกล้าในนาข้าว   ก็รู้สึกว่าต้นกล้าไม่ได้โตขึ้นแม้แต่นิดเดียว                 เขารู้สึกกลุ้มใจมาก   ขบคิดว่าทำไมต้นกล้าไม่โตเร็วๆหน่อยนะ ทุกๆวันหลังจากกลับบ้านเขาก็จะขบคิดอยู่ตลอดเวลา   จนกระทั่งในที่สุดเขาก็ได้คิดวิธีที่ดีที่สุดออกได้วิธีหนึ่ง                 วันต่อมา เขารีบไปที่ทุ่งนา   แล้วดึงต้นกล้าขึ้นมาทีละต้นๆ   หลังจากที่ดึงต้นกล้าเสร็จ เขาก็พบว่าต้นกล้าที่เขาดึงโตขึ้นเลยไม่น้อยทีเดียว                                ดังนั้นเขาจึง...